อยากเลือกซื้อเพชรเม็ดสวยๆ จะต้องดูอะไรบ้าง

 

อยากเลือกซื้อเพชรเม็ดสวยๆ จะต้องดูอะไรบ้าง?
ดูแค่ขนาดเพชรว่าเป็นเพชรเม็ดใหญ่ แค่นี้เพียงพอไม๊?
จะรู้ได้อย่างไรว่าเพชรมีคุณภาพดีหรือไม่ ต้องดูเพชรอย่างไร?

เพชรมีคุณลักษณะอยู่ 4 ประการ หรือเรียกว่า 4 Cs ได้แก่
Carat Weight (กะรัต) Cut (การเจียระไน) Color (สี) และ Clarity (ความสะอาด)
ซึ่ง 4 คุณลักษณะนี้ เป็นตัวกำหนดคุณค่าและราคาของเพชร หากเรารู้และเข้าใจในคุณลักษณะที่ดีแล้วจะทำให้เลือกเพชรได้อย่างคุ้มค่าและมั่นใจขึ้นค่ะ

 

 

1.กะรัต CARAT

คำว่ากะรัตจะได้ยินกันบ่อยๆ แต่ขนาดมันจะเล็กใหญ่แค่ไหน?
วันนี้เพชรนพรัตน์จะมาทำให้เห็นภาพกันคร่าวๆ
1 กะรัต น้ำหนักเท่ากับ 0.2 กรัม
เพชรที่ถูกเจียระไนออกมามาตรฐานจะมีหน้ากว้างที่ใกล้เคียงกัน
คือจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางเวลามองจากมุมบนประมาณ 6.5 มิลลิเมตร

เพชร 1 กะรัต มี 100 ตัง แม้ว่า ขนาดแต่ละกะรัตจะมีขนาด แตกต่างกันในระดับนึง
แต่เมื่อห่างกันเป็นหน่วย ตัง แล้วขนาดจะดูแตกต่างกันไม่มาก
เช่น 20 ตัง กับ 25 ตัง
30 ตัง กับ 35 ตัง

แล้วคนเค้าซื้อขนาดไหนกัน?
เป็นคำถามที่พบบ่อยๆ คำถามนี้ตอบยาก เพราะแต่ละคนก็มีบรรทัดฐานแตกต่างกันไป
บางคนชอบให้เม็ดบึ้มๆ บางคนชอบเล็กพอดีๆ อันนี้คงต้องแล้วแต่สไตร์ของแต่ละคน
และ งบที่ตั้งไว้นะคะ แต่ขนาดเล็กใหญ่ก็ไม่สำคัญ เอาแค่ว่าเราเห็นแล้วมีความสุขก็พอค่ะ^^

 

 

2. สีของเพชร COLOR

เพชรน้ำ 100, 99, 98, 97...สีประมาณไหน?
เพชรน้ำ 100 มันขนาดไหนกัน?
ตามหลักสากลแล้ว สีของเพชร ( Color ) จะเรียงกันตั้งแต่ขาวไร้สีที่สุดคือ D ไปจนถึง Z
ซึ่งในแต่ละระดับจะติดสีเหลืองมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคนไทยแล้วเราจะมีคำว่า "น้ำ "
ใช้แทนสีต่างๆ เริ่มตั้งแต่น้ำ 100 ลงไป เนื่องจากมีการแบ่งลำดับขั้นกันเยอะแยะ
จนเลือกไม่ค่อยจะถูก จึงมีการจำแนก ให้กว้างขึ้นอีกนิดคือ

100 - 98 คือ กลุ่ม Colorless หรือ ไร้สี
กลุ่มนี้จะมูลค่าสูงที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่หายากตามธรรมชาติ

97 - 94 คือ กลุ่ม Near Colorless หรือเกือบไร้สี

93 - 91 คือ กลุ่ม Faint Yellow หรือติดสีเหลืองจางๆ

90 - ลงไป จะไม่นิยมใช้กันเพราะเริ่มเห็นสีเหลืองชัด

หลายๆท่านก็จะให้แนะนำว่าเลือกเพชรสีอะไรดี
ทางเรามีความเห็นว่า เพชรตั้งแต่สี H (น้ำ 96) ขึ้นไปคือเพชรที่มีความขาวใสมากๆแล้ว
คือมองด้วยตาเปล่าจะไม่ติดเหลือง

ส่วนเพชรที่มีสี I (น้ำ 95) ลงไป จะเริ่มสัมผัสได้ถึงความเหลืองจางๆ

ส่วนตัวช่วยที่สำคัญมากๆคือ การเจียระไน ซึ่งจะส่งเสริมให้เพชรดูเปล่งประกาย
หน้าไม่มืดหมอง ซึ่งถ้าเจียระไนไม่ดี อาจทำให้ดูระดับสีต่ำกว่าความเป็นจริงได้

ถ้านึกไม่ค่อยออก ลองเข้ามาเปรียบเทียบ
สีเพชรแต่ละสีได้ที่เพชรนพรัตน์นะคะ
เรายินดีให้บริการด้วยใจค่ะ ไม่กดดันให้ซื้อแน่นอน^^

 

 

3. ความสะอาด CLARITY

เกรดความสะอาดหรือตำหนิของเพชร
มักถูกถามหาเกรด FL หรือ IF
เพราะเชื่อว่ามันไร้ตำหนิ ไร้ที่ติ เพอร์เฟคที่สุด
แต่สิ่งที่ต้องถามกลับคือ จำเป็นหรือ
ที่เราจะต้องซื้อเพชรเกรดไร้ตำหนิด้วย?

เพชรเกิดจากการทับถมของธาตุคาร์บอน
หรือที่เราเรียกกันแบบบ้าน ๆ ว่า “ถ่าน”
เป็นล้าน ๆ ปีย่อมต้องมีแร่ประเภทอื่นเจือปน
ในช่วงระยะเวลานั้นบ้างอยู่แล้ว
กลายเป็นสิ่งที่ปะปนภายในเนื้อของเพชร
บ้างเป็นผลึกใส ผลึกดำ รอยแตก ช่องว่าง ฯลฯ
ซึ่งความหนาแน่นของสิ่งเจือปนเหล่านี้
ถูกสถาบันอัญมณีเปรียบเทียบระดับออกมา
เป็นเกรดต่าง ๆ ดังนี้

FL/IF – ไร้ตำหนิ หรือ ไร้ตำหนิภายใน

VVS – มีสิ่งเจือปนเล็กน้อยมาก ๆ

VS – มีสิ่งเจือปนเล็กน้อยมาก

SI – มีสิ่งเจือปนเล็กน้อย

I – มีสิ่งเจือปนภายใน

แต่ละเกรด สามารถแบ่งลำดับแยกย่อยออกเป็น
ชั้น 1 และ 2 หรือ อาจจะแบ่งเป็น 3 ระดับได้ในเกรด I (Included) ยกเว้นเกรดไร้ตำหนิ
ที่จะไม่มีการแบ่งชั้นเกรดย่อยอีก
โดย 1 จะดีที่สุดในลำดับแยกย่อยของเกรดนั้น ๆ

ตำหนิของเพชรแต่ละเม็ด มีความเป็นเอกลักษณ์
ของแต่ละเม็ดชนิดที่หาความเหมือนกันเป๊ะไม่ได้
เป็นเม็ดที่ 2 อีก จึงมีลักษณะคล้าย
ลายนิ้วมือของคนที่จะไม่มีวันซ้ำกัน
ตำหนิของเพชรจะตรวจหากันด้วยมาตรฐานเดียวกัน
คือ อ้างอิงจากกล้องส่องขยายขนาด
10X หรือ ขยาย 10 เท่าเป็นบรรทัดฐานเท่านั้น
การมองหาตำหนิเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
หากปราศจากความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ
ซึ่งตำหนิที่อาจเริ่มมองหาได้ง่ายผ่าน
กล้องส่องขยาย 10X นั้นจะเป็นเกรด VS
ที่จะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
และจะเริ่มเห็นชัดขึ้นในเกรด SI ลงไป
โดยเกรดที่อาจส่งผลให้สามารถมองเห็น
ด้วยตาเปล่าโดยปราศจากกล้องส่องขยาย 10X
คือเกรด SI2 เป็นต้นไป

ดังนั้น เกรดความสะอาดตั้งแต่ SI1 ขึ้นไป
จึงเป็นเกรดที่ลูกค้าซื้อด้วย “สิ่งที่ตาเปล่ามองไม่เห็น”
ร้านของเราจึงมักจะให้ข้อแนะนำกับลูกค้า
เมื่อทำการเลือกซื้อเพชรด้วยเกรด SI1 ขึ้นไป
จะถือว่าปลอดภัยที่สุดค่ะ^^

 

 

4. การเจียระไน CUTTING

เกรดการเจียระไน เมื่อลูกค้าถามหา “เพชรน้ำงาม”
ซึ่งมักจะสื่อถึงเพชรที่ส่องประกายเจิดจรัสแวววาว
เตะตาทันทีที่ใครสักคนกวาดสายตา
จากอีกฟากฝั่งห้องข้ามมา
“เกรดเจียระไน” คือสิ่งนั้นที่ลูกค้าถามหา
“ไม่ใช่” น้ำ หรือ Color ของเกรดเพชรนะคะ!

เกรดการเจียระไน เป็นเกรดที่คุณควรจะเลือก
เป็นอันดับต้น ๆ ในการเลือกซื้อเพชร
จริงอยู่ที่ “ขนาด” น้ำหนักกะรัต Carat
และเกรดน้ำหรือสีอย่าง Color
จะมองเห็นเป็นจุดสังเกตที่ชัดเจนที่สุดได้เป็นอันดับต้น ๆ สำหรับการเลือกซื้อเพชรไว้ในครอบครอง
แต่ไม่ว่าเพชรจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่
ติดสีเหลืองมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่อาจสำคัญกว่าคือ
เพชรของเราต้องส่องประกายเจิดจ้าข้ามห้อง
บาดตาผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้เป็นนัยยะสำคัญยิ่งต่างหาก

เกรดการเจียระไน คือ เกรดที่บ่งบอกความสามารถใน
“การกระจายแสง” ของเพชรเม็ดนั้น ๆ
เมื่อเพชรเม็ดนั้นสามารถกระจายแสงได้มาก
ก็จะสามารถส่องประกายแสงเจิดจ้าได้มากตามไปด้วย
เกรดนี้เป็นตัววัดความสามารถของช่างผู้ทำการเจียระไน
หากผู้ทำการเจียระไนสามารถเจียระไนทำองศาเพชร
แต่ละมุมได้อย่างแม่นยำพอดิบพอดี
ก็จะทำให้ประกายของเพชรเม็ดนั้นกระจายแสงเจิดจ้า
ออกไปได้มากที่สุด หากผู้ทำการเจียระไน
ทำให้ความสูงของเพชรตื้นเกินไปหรือลึกเกินไป
การกระจายแสงที่ผิดองศา จะทำให้เพชรดูมืดบอด
จืดชืด ทื่อหม่นลงได้อย่างน่าเสียดาย

ติดตามความรู้และเคล็บลับเรื่องเพชร
ได้ที่เพจเพชรนพรัตน์นะคะ^^